วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เขียนภาษาอังกฤษครั้งที่ 3

งวดนี้ผิดเรื่องการใช้คำศัพท์เล็กน้อย บางครั้งการหาคำศัพท์ที่เหมาะสม นั้นก็สำคัญ ยังต้องพัฒนาต่อ

----------------------------------------

I had some plan about to photo around Bangkok But this month had rain everyday, so I temporary break my photo plan untill rain season partaway.

So today, I write articel about weather and season in thailand.

The Weather and Season in Thailand

Thailand locations is near aclinic line so it do Thailand to hot country (tropical climate), Temperature.rage around year is average 20-30 C .

In Thailand have season 2-3 type
Summer season period February-April
Rainy season period May-October
Winter season period November – January

In Bangkok have a joke in Thailand, He say Bangkok have 2 temperature is hot and very hot, in Bangkok chance to temperature below 22 C is difficult, One year have around a few week.

However, Thailand have many geography so south region of Thailand have 2 season

Summer season period May-September
Rainy season period November-April
Because of the south region of Thailand between sea, Thai gulf and Andaman sea, so rain almost year.The Last, if you want come to Thailand for sunbathe or bask on the beach, please don't come in rainy season, becuase you can not see any sunshine but you can see nimbus or blackcloud .


Have a nice day

การเรียนวิชา Admin และ Linux

ช่วงนี้ ก็นั้งทำไรไปเรื่อยๆ สิ่งหนึ่งที่เรียนรู้เพื่อทบทวนคือ วิชา System Admin ที่เคยเชียวชาญเมื่อนานมาแล้ว วิชานี้เกี่ยวข้องกับการดูแลระบบต่างๆ เช่น Webhost server ต่างๆ ให้ทำงานได้อย่างเป็นปกติสุข ไม่ให้มีคนมาด่า ว่าระบบล่มบ่อยจัง

วิชาที่เรียน เลือกใช้ Linux ของ Feroda นั้นเอง ซึ่งใครอย่างเล่นเป็น ก็ให้ลองนำแนวคิดนี้ไปฝึกเล่นดู

คือ ใช้ VMware เพื่อได้ลง Linux ได้ และจากนั้น ก็ ทดสอบระบบต่างๆ เล่นไปเรื่อยๆ รับรองเดียวก็เป็นครับ

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เขียนครั้งที่ 2 ส่วนผิดที่เป็นวลี น่าเป็นประโยคมากกว่า

บทความนี้ เขียนพวกเกี่ยวกับประเทศไทยว่าลักษณะภูมิประเทศ การแบ่งภาค แต่ส่วนใหญ่ จะคัดลอกมาจาก wiki แต่ผมนำมาแต่งเสริมให้ดูเป็น บทความไม่เป็นทางการเกินไป

โดยสิ่งที่ไ้ด้จากการเขียนผิดพลาดครั้งนี้คือ การเขียนประโยคกับวลี

สิ่งที่แก้คือThailand suddivisiton ตรงนี้เป็นวลี ความหมายคือ การแบ่งประเทศ

แม้ไม่ผิด แต่วลีส่วนนี้ควรเป็นประโยค

ควรทำให้เป็นประโยค โดยเปลี่ยน N เป็น V ซะ suddivisiton เป็น is subdivided

ซึ่งเป็น Thailand is subdivided by region or geographic ความหมายคือ ประเทศไทยถูกแบ่งโดยทางภูมิภาคหรือภูมิศาสตร์

----------------------------------------------
Where is Thailand in the world. Thailand is local at southeastAsia, have surface area of approximately 513,000 km2 (198,000 sq mi).

ฺBorder north is Laos and Burma, to the east by Laos and Cambodia, to the south by the Gulf of Thailand and Malaysia, and to the west by the Andaman Sea and Burma.

The capital of Thailand is Bangkok but thai people call it "Krung Thep".

But Krung thep is shortname, Formal name Krung Thep is "Krungthepmahanakhon Amonrattanakosin Mahintharayutthaya Mahadilokphop Noppharatratchathaniburirom Udomratchaniwetmahasathan Amonphimanawatansathit Sakkathattiyawitsanukamprasit"
, and nobody call it in lifetime.

If you is foreigner when you come to Thailand You say "Bangkok" everybody (may be) can understand but Thaipeople say"Krung Thep" more.

Thailand suddivisiton by region or geographic
  1. Central
  2. North
  3. South
  4. East
  5. West
  6. NorthEast
Many region is sourec of diffreent Place ,Food ,Culture it make Thailand very interesting. I will told next article

Frist writing หัดเรียนภาษาอังกฤษ

ตอนนี้ผมอายุ จะ 28 ปี อีก 3 วันข้างหน้า เร็วไว อย่างกับโกหก ตอนนี้สิ่งทีอย่างเรียนและหัดทำให้ได้ีดีอีกอย่างคือ ภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะ ด้านการเขียน

ด้วยความอยากทำมาก อยากลองเขียนภาษาอังกฤษให้ได้ เลยเปิด Blog อีกอันไว้สำหรับให้เขียนภาษาอังกฤษ เลยเลือกเขียนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ ประเทศไทย

และให้เพื่อน ซ้ง เป็นคนตรวจให้ และแนะนำว่าทำไมต้องเขียนอย่างนี้ ผมจึงเริ่มเขียนและให้เพื่อนซ้งตรวจด้วย เป็นที่มาของบทความชุดนี้ "การเขียนภาษาอังกฤษ"

โดยผมจะย้ายบทความฉบับก่อนตรวจมาไว้ที่นี้ เพื่อใ้ห้ blog นั้น เป็นระเบียบมากกว่านี้ เริ่มด้วยบทความแรก

-----------------------------------------------------------------
บทความนี้ผมต้องการบอกว่า ผมจะหัดเขียน ภาษาอังกฤษและจะรีบพัฒนาฝืมือ โดยบทความที่เขียนเกี่ยวกับ ประเทศไทย อาหารที่ท่องเที่ยว และอื่นๆ เพื่อให้มีข้อมูลด้านอื่นๆบ้าง

  1. Hi my name Keng.
  2. This is Frist writing in my life write by English.
  3. I am Thai and I never speak talk write english in lifetime.
  4. I know I think man come to read in my blog will groggy.
  5. I will develop my skill a english write as soon as.
  6. The object a blog is tell some story about Thailand.
  7. I need to tell something about Thai culture ,travel place, food ,story about thailand, etc by Thai people

I hope you had receive information in Thailand

โดยส่วนที่แก้มี เรียบร้อย ไปอ่านได้ที่ travel-and-thailandstory.blogspot.com นะครับ

ส่วนสิ่งที่โดนแก้ อย่างแรกคือ คำศัพท์บ้างคำ จาก ประโยค 2 คำว่า writing โดนเปลียนให้เป้น articel ซึ่งเป็นคำว่าบทความชัดเจนกว่า

หลักประโยคหรือ แกรมม่าที่โดนแก้ ก็เช่น ในประโยค 2 "my life write by English." โดนแก้เป็น " in my life written by English."
สาเหตุทีแก้จาก write เป็น written เพราะมันเป็นประโยค Passive คือโดนกระทำ แล้วให้เปลี่ยน V1 เป็น V3
นอกนั้นก็ทำให้ประโยคมันกระชับขึ้น

จบการเขียนครั้งแรก

วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2552

อ่านหนังสือแล้วสอบไม่ผ่าน

วันนี้มาบ่นๆ นิดหน่อย ในการสอบจบปริญญาโท รอบแรก อ่านหนังสือ 5 วิขา แล้วเลือก 4 วิชา สอบภายใน 3 ชั่วโมง เขียนกันเหนื่อยมาก ดันมีปัญหาเขียนข้อสอบไม่ทัน เห้อ

แต่แม้จะเขียนทัน ก็ ใช่ว่าจะผ่าน เพราะที่เขียนนั้น ก็ใช่ว่าจะถูก

เลยต้องเริ่มอ่านหนังสืออีก 2 เดือน

แต่รุ้สึกว่า เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ต้องอ่านหนังสือมากขนาดนี้

เมื่อก่อนเคยอ่านหนังสือ แบบเยอะที่สุด ก็ 1 วิชาประมาณ 17 บท เท่านั้น

แต่งวดนี้ วิชาละประมาณ 10 บท 5 วิชา เหนื่อยเลย แถมจำลำบากอีก แรกๆ ทำไง ก็ไม่จำ

แต่ละวิขาแม้่ ไม่ยาก ถ้าเทียบกัน ตอนสอบวิขาอื่นๆ เพราะ เราอาจสอบกัน ทีละวิชาแถม หลายวันด้วย พอรวบทุกอย่างมาสอบวันเดียวทำให้เราอ่าน จำลำบาก

คราวหน้าสิ่งที่ต้องทำ คือ อ่านหนังสือให้เต็มที แล้ว จำให้ได้ เขียนให้ได้มากกว่านี้ มีเวลาอีก 2 เดือน สู้ต่อไป

วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552

การถ่ายทอดวิชายุคคอมพิวเตอร์ กับ ยุคหนังกำลังภายใน

ปัจจุบันคอมพิวเตอร์และโลกอินเตอร์เน็ทเกือบเป็นของสามัญประจำบ้านไปแล้ว เพื่อนของผม 2 คน ยัายไปหอที่ใกล้ที่ทำงานและใกล้โรงเรียน แล้วบอกว่าหอใหม่มันไม่มีอินเตอร์ทั้งคู่ ซึ่งผมก็ถามเลยว่า หอใหม่อยู่ส่วนไหนของประเทศ รวมถึงปฎิกิริยาของเพื่อนผมก็บอกว่า "แล้วกูจะอยู่อย่างไร" blogเพื่อนผมทำขนมปัง

ซึ่งอาจเป็นเรื่องลำบากของคนใช้ชีวิตในโลกอินเตอร์เน็ท ซึ่งก็ลำบากมาก เพราะปัจจุบัน การคุยกันผ่านโทรศัพท์ยังน้อยลงมาก เพราะคุยกันใน msn ใช้โทรศัพท์เมื่อกำลังออก หรือ ถึงแล้วตามหาเพื่อน

มาถึงเรื่องการเรียนรู้ในปัจจุบันโลกอินเตอร์เน็ทกับคอมพิวเตอร์เรียนได้ว่าเป็นสื่อการเรียนหรือสื่อการสอนแบบใหม่ ที่ยิ่งกว่าห้องสมุดใหญ่ๆ ที่ไหนในโลกก็ตาม แม้ในบางครั้งผมว่าการเรียนแบบเก่าในห้องเรียนหรือการเรียนแบบสองทาง โดยการมีอาจารย์สอนให้แนะนำกันตัวๆ ย่อมดีกว่าเพราะเรามีโอกาสได้ถาม ได้ทำ ให้อาจารย์ดู แต่สื่อการเรียนแบบนี้ ก็ให้ความรู้ได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งมากเหมือนกัน
แต่สำหรับพวกที่เข้าห้องเรียนแล้วไปนั้งเล่น หรือนั้งตัวแข็งไม่สนใจอาจารย์ สั่งให้ทำไรก็สักแต่ว่าทำๆ ไปให้มันผ่าน ให้ไม่โดนด่าเป็นพอ ผมว่ามาเรียนแบบทางเดียวก็ดีเหมือนกัน

ซึ่งเปรียบเทียบกับหนังจีนกำลังภายใน การเรียนแบบมีอาจารย์ ก็เหมือนเราเข้าสำนักแล้วมีอาจารย์ฝึกให้อย่างดีถ่ายทอดวิชาให้เต็มที เหมือนเรื่องมัีงกรหยกภาคแรก จอมยุทธ์ยิงอินทรีที่ อังชิกงสอนฝ่ามือ 18 มังกรให้ก๋วยเจ๋ง ถึงก๋วยเจ๋งจะไม่ฉลาดเพียงใด แต่ด้วยความเอาใจใส่ของอังชิกงและความตั้งใจกับความเพรียของก๋วยเจ๋ง ก็ทำให้สำเร็จได้

ส่วนอีกแบบคือพวกไม่มีอาจารย์ให้ทำตาม เหมือนโหลดวีดีโอใน Youtube มาดู แล้วทำตาม อันนี้ เหมือนกับเรื่องเดชคัมภีร์เทวดา ที่เหล้งฮู้ชงให้ไปฝึกวิชาบนเขาแล้วเจอถ้ำที่สลักกระบวนท่าของ 5 สำนัก รวมทั้งวิธีแก้กระบวนท่าเหล่านั้นด้วย เพียงจำภาพได้ทั้งหมด ก็สามารถทราบถึงวิธีทำลายกระบวนท่าทั้งหมด ถ้าคุณดูวิดีโอแล้วจำได้ก็สามารถทำได้

อีกพวก คืออ่านหนังสือ โหลดหนังสือมาอ่าน เหมือนในกระบี่่อิงฟ้าดาบฆ่ามังกร ที่เตียบ่กี้ตกเขาแล้วไปเจอคัมภีร์เก้าสุริยะ ในตัวลิง แล้วอ่านนำมาฝึกตามก็สำเร็จวิชาได้

แม้ดูจะง่ายดายจากฝึกวิชาของพระเอก 3 เรื่อง แต่ความเป็นจริงบัดนี้ โลกเราสามารถเลือกฝึกวิชาแบบไหนก็ได้ เพราะ คอมพิวเตอร์กับอินเตอร์เน็ทนั้น ได้มีคัมภีร์สารพัดแบบไว้มากเหลือเกิน คุณอยากเป็น นักดนตรี โปรแกรมเมอร์ ศิลปิน ฯลฯ ก็แทบจะมีทุกอย่างไว้ในเราไปศึกษาอยู่แล้ว โดยเฉพาะแบบ เตียบ่อกี้ กับ เหล้งฮู้ชง ดังเช่น แฟนเก่าผม เธอเรียนทำขนมเค้กผ่านพันทิพย์แล้วตอนหลังก็สามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้อีกด้วย แม้ระหว่างนั้นการฝึกของเธอจะทำให้เธอเสียน้ำตาบ้าง ทำผมแทบประสาทบ้างก็ตาม แต่ผมก็สนับสนุนให้เธอทำๆๆๆๆ และทำ ได้เก่งๆ (คิดว่าเธอต้องมีคุณสมบัติของก๋วยเจ๋งด้วยแต่ไม่มีอาจารย์เป็นตัวตน) อันนี้เป็นตัวอย่าง


แต่สิ่งที่ยากมากขึ้นคือ อังชิกง ที่อาจจะหายากขึ้น หรือ ความเพรียแบบก๋วยเจ๋ง ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างศิษย์กับอาจารย์อาจจะหายากขึ้น เพราะถ้าเรามั่วแต่อยู่ในโลกอินเตอร์เน็ท ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลต่อบุคคลจะลดลงไปเรื่อยๆ ความสัมพันธ์ที่ดีต้องใช้เวลานะครับ การจะหาอาจารย์ดีๆ ในปัจจุบันก็เหมือนยากขึ้นด้วย ถ้าใครได้อาจารย์ที่มีหัวใจของผู้ให้ความรู้เต็มที่ ก็ขอให้ปฎิบัติกับท่านดีๆ เคารพนับถือให้เกรียติท่าด้วยนะครับ

แต่สุดท้าย ผมนึกถึงเรื่องหนังเรื่อง The Matrix วิธีการเรียนแบบเอาปลักเสียบหัวแล้ว load ข้อมูลแล้วมีความรู้เลย

ถึงยุคนั้นเมื่อไร อาจาย์พวกเรา ก็คงเป็น คอมพิวเตอร์อย่างสมบูรณ์แบบนั้นละครับ